ตำรวจบุกรวบหมอสาวคาโรงพยาบาลธนบุรี เอี่ยวคดี ทุบหุ้น รับเคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงเว็บบอร์ด จนท.ค้นห้องพักยึดโน้ตบุ๊ค
จากกรณีที่ตำรวจ บช.ก.จำนวนหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่กระทำความผิดตาม
พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต
จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมถึง
ตลาดหุ้นไทยนั้น โดยมีผู้ต้องหา 3 คน คือ นายคธา ปาจาริยพงษ์
พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนันธ์
อายุ 43 ปี
กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี
เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี
จากการสอบสวนเบื้องต้น พญ.ทัศพร ยอมรับว่า เคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง
แต่ไม่มีเจตนาจะมุ่งร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพัก ภายในรอยัลปาร์ค คอนโดมิเนียม
ภายในซอยพหลโยธิน 8 พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นของกลาง
ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้พบข้อมูลเกี่ยวกับข้อความอัน มิบังควรที่ พญ.ทัศพร โพสต์ลงบนเว็บบอร์ด
จึงรวบรวมพยานหลักฐานติดตามไปจับกุมได้ภายในโรงพยาบาล
เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับ นายอารีย์ จิวรรักษ์
ผอ.สำนักการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
แล้วคาดว่าน่าจะอนุญาตให้ประกันตัวออกไปเหมือนรายอื่นๆ
ที่เคยถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้
แต่จะต้องถูกควบคุมบริเวณไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศไทย ส่วนจะถูกแจ้งข้อหาอื่นๆ
เพิ่มเติมหรือไม่นั้น หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงไอซีที
ที่จะดำเนินการหาพยานและหลักฐานมาดำเนินการต่อไป
วิเคราะห์ข่าว
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้โพสต์ข้อความลงในเว็บบอร์ด โดยมีเนื้อหาที่ล่อแหลมไปในทางที่ผิด จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมถึง
ตลาดหุ้นไทย ผู้ต้องหายอมรับว่าเคยโพสต์จริง
แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะมุ่งร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดโน๊ตบุ๊ตซึ่งเป็นของกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พฤติกรรมการกระทำผิด
นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี
เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย
ได้ทำกระทำผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต
จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจรวมถึง
ตลาดหุ้นไทย
วิธีป้องกันการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น
ไม่ควรกระทำการโพสต์ข้อความหรือข้อมูลลงบนอินเตอร์เน็ต ที่มีผลกระทบต่อสังคม และจะป้องกันตัวเองจากการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยจะไม่ล๊อกอินชื่อตัวเองไว้ในเครื่อง
บทลงโทษ
มาตรา 14 นำเข้า/ปลอม/เท็จ/ภัยมั่นคง/ลามก/ส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ : ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
2นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
3นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
4นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชน ทั่วไปอาจเข้า ถึงได้
5เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม 1 2 3 หรือ 4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น