วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

มือแฮกเกอร์ ทวิตเตอร์ นายกปู มอบตัวแล้ว
            5 ..54  เมื่อเวลา 14.00 . ..อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำตัวนายเอกวิทย์ ทองดีวรกุล อายุ 22 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ .สงขลา เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมือแฮกเกอร์เฟซบุ๊คของน..ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหากรณีเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงของผู้อื่นโดยมิชอบ มาแถลงข่าว ..อนุดิษฐ์ แถลงว่า จากที่กระทรวงไอซีทีได้รับรายงานการกระทำความผิด ทางสำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ของกระทรวงไอซีที ได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางกระทรวงจะมีการแถลงข่าวแต่ยังไม่มีการยืนยันผู้กระทู้ความผิด เนื่องจากต้องการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาและป้องกันไม่ให้มีการจับผิดตัว จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุม ซึ่งหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ก็ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด โดยการเชิญตัวมาสอบปากคำ ซึ่งนายเอกวิทย์รับสารภาพว่าเป็นผู้ดำเนินการแฮกข้อมูลของนายกฯแต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจับผิดตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  โดย ปอท. จะเป็นผู้รับผิดชอบทำการรับตัวผู้ต้องหาเพื่อนำไปดำเนินคดีต่อไป
วิเคราะห์ข่าว
                ผู้ต้องหาเป็นมือแฮกเกอร์ ที่ได้ทำการแฮกเฟซบุ๊คของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าไปแฮกข้อมูลต่างๆ ซึ่งเจ้าตัวกระทำแต่เพียงผู้เดียว เจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจับผิดตัว และแน่นอนว่าจะดำเนินการตามกฎหมาย
พฤติกรรมการกระทำผิด
            แฮกเกอร์เฟซบุ๊คของน..ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหากรณีเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงของผู้อื่นโดยมิชอบ
วิธีป้องกันการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น
            ไม่ควรละเมิดสิทธิข้อมูลททางระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยเฉพาะ และไม่ใช่ระบบของตนเอง
บทลงโทษ
            มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และไม่ใช่ระบบของตนเอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนมาตรา 7 กล่าวถึงความผิดจากการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยมิชอบ  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตำรวจบุกรวบหมอสาวคาโรงพยาบาลธนบุรี เอี่ยวคดี ทุบหุ้น รับเคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงเว็บบอร์ด จนท.ค้นห้องพักยึดโน้ตบุ๊ค

            จากกรณีที่ตำรวจ บช..จำนวนหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่กระทำความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมถึง ตลาดหุ้นไทยนั้น โดยมีผู้ต้องหา 3 คน คือ นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด น..ธีรนันต์ วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี  จากการสอบสวนเบื้องต้น พญ.ทัศพร ยอมรับว่า เคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง แต่ไม่มีเจตนาจะมุ่งร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพัก ภายในรอยัลปาร์ค คอนโดมิเนียม ภายในซอยพหลโยธิน 8 พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พ...พิสิษฐ์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้พบข้อมูลเกี่ยวกับข้อความอัน มิบังควรที่ พญ.ทัศพร โพสต์ลงบนเว็บบอร์ด จึงรวบรวมพยานหลักฐานติดตามไปจับกุมได้ภายในโรงพยาบาล เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับ นายอารีย์ จิวรรักษ์ ผอ.สำนักการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แล้วคาดว่าน่าจะอนุญาตให้ประกันตัวออกไปเหมือนรายอื่นๆ ที่เคยถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ แต่จะต้องถูกควบคุมบริเวณไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศไทย ส่วนจะถูกแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่นั้น หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงไอซีที ที่จะดำเนินการหาพยานและหลักฐานมาดำเนินการต่อไป
วิเคราะห์ข่าว
            ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้โพสต์ข้อความลงในเว็บบอร์ด โดยมีเนื้อหาที่ล่อแหลมไปในทางที่ผิด จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมถึง ตลาดหุ้นไทย ผู้ต้องหายอมรับว่าเคยโพสต์จริง แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะมุ่งร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดโน๊ตบุ๊ตซึ่งเป็นของกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พฤติกรรมการกระทำผิด
            นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด ..ธีรนันต์ วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ทำกระทำผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจรวมถึง ตลาดหุ้นไทย
วิธีป้องกันการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น
            ไม่ควรกระทำการโพสต์ข้อความหรือข้อมูลลงบนอินเตอร์เน็ต ที่มีผลกระทบต่อสังคม และจะป้องกันตัวเองจากการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยจะไม่ล๊อกอินชื่อตัวเองไว้ในเครื่อง
บทลงโทษ
            มาตรา 14 นำเข้า/ปลอม/เท็จ/ภัยมั่นคง/ลามก/ส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ : ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้  ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์   ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน   หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์   อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
2นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
3นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด  ๆ   อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร   หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
4นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ  ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชน   ทั่วไปอาจเข้า ถึงได้
5เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม 1 2 3 หรือ 4

มาช่า ขอโทษ ภาพหลุดเตรียมเอาผิดมือดีปล่อยภาพหลุด
มาช่า
มาช่า แถลงขอโทษหลังจากมีภาพหลุดอื้อฉาวกับผู้ชาย ได้เผยว่า หลุดจากโทรศัพท์ที่ทำหาย แต่แจ้งความเอาผิดคนปล่อยแล้ว หวังเป็นเรื่องซวยเรื่องสุดท้ายของชีวิต พร้อมวอนขอให้หยุดเผยแพร่ภาพ ด้านหมวดเจี๊ยบ ผู้สมัคร ส..พรรคเพื่อไทย เกาะกระแสโผล่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ  หลังจากที่เมื่อหลายวันก่อน หนังสือพิมพ์สยามดาราได้นำเสนอข่าวภาพหลุดสาวหน้าคล้าย นักร้องชื่อดัง มาช่า วัฒนพานิชกำลังบรรเลงเลิฟซีนกับผู้ชายที่ระบุว่าหน้าคล้าย นายซีริล รูฮานี (Cyril Rouhani)” อดีตโปรดิวเซอร์ชาวฝรั่งเศสคู่กรณี ที่เคยร่วมกันทำงานเพลง I’m Back และตอนนี้กำลังมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ หลุดออกมาทำเอาช็อคกันทั้งวงการบันเทิงซึ่งหลังจากที่นักร้องดังมาช่าเอาแต่หลบหน้าสื่อ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จนสุดท้ายเจ้าตัวก็ได้ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง กลางกองละครเรื่อง ลิขิต เสน่หาออกอากาศทางช่อง 3 ที่ รพ.เกษมราษฏร์ บางแค พร้อมกับยอมรับว่าเป็นสาวที่อยู่ในภาพอื้อฉาวนั้นจริง เผย เป็นภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ที่ทำหาย แต่ปฏิเสธที่จะพูดถึงผู้ชายในภาพ ก่อนจะเอ่ยขอโทษแฟนๆ ที่มีภาพทำนองนี้หลุดออกมา
วิเคราะห์ข่าว
            มาช่าได้ทำโทรศัพท์หาย และในโทรศัพท์ก็มีภาพที่ถ่ายกับผู้ชายในท่าทางที่ค่อนข้างไปในทางชู้สาว มีผู้ที่ไม่หวังดีเก็บโทรศัพท์ได้ แล้วนำภาพดังกล่าวออกไปเผยแพร่ ทำให้มาช่าเสื่อมเสียชื่อเสียง
พฤติกรรมการกระทำผิด
            นำภาพผู้อื่นมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นภาพที่อนาจาร หรือชู้สาว ทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ได้รับความเสียหาย
วิธีป้องกันการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น
ควรเก็บของส่วนตัวไว้ให้ปลอดภัยและมิดชิด หรือไม่ควรถ่ายรูปอนาจารเก็บไว้ในโทรศัพท์
บทลงโทษ
มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๖ ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ตร.ลุมพินี รวบนายแบบยูเครน โพสต์หมิ่น ปธ.สมาคมอุตสาหกรรมถ่ายแบบฯ
 วิเคราะห์ข่าว
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มี.ค. 59 ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นาย Diego Fernado Gonzale Rojas ชาวยูเครน อาชีพนายแบบสังกัดโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง มาทำการสอบปากคำ หลังได้รับการร้องเรียนจาก นายเอ็ดเวิร์ด กิตติ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมถ่ายแบบและผู้ประกอบการไทย ว่า นาย Diego ได้ส่งข้อความทางอีเมลให้ทางสถานทูตต่างๆ อาทิ ยูเครน ออสเตรีย สเปน แคนาดา ฝรั่งเศส รวมทั้ง กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ และยูนิเซฟ รวมถึงโพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้ได้รับความเสียหาย
โดย นายเอ็ดเวิร์ด ระบุว่า นาย Diego มีการโพสต์ข้อความและส่งเอกสารไปตามสถานที่ต่างๆ กล่าวหาตน และโครงการ หยุดนางและนายแบบเด็กต่างชาติผิดกฎหมายในประเทศไทย ต่อต้านการค้ามนุษย์ที่ตนจัดทำขึ้น ทำให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่า นายแบบ และนางแบบชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาตและไม่มีการเสียภาษี เชื่อว่าการถูกโจมตีในครั้งนี้เกิดจากคู่แข่งที่เสียผลประโยชน์ จากการทำโครงการดังกล่าวขึ้นมา และมีการทำเป็นขบวนการ ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และหากเข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็จะดำเนินคดีด้วย
วิเคราะห์ข่าว
นาย Diego Fernado Gonzale Rojas ได้โพสต์ข้อความและส่งีเมล์ไปยังประเทต่าง โดยที่มีเนื้อหาว่าต่อต้านการค้ามนุษย์หยุดนายแบบนางแบบมาทำงานที่ไทย เนื่องจากนายแบบนางแบบจากต่างประเทศไม่ได้รับใบอนุญาตมาทำงานที่ไทย โดไม่เสียภาษี โดยข้อมูลนั้นอาจจะเป็นการโจมตีบริษัทคู่แข่งของนายเอ็ดเวิร์ด

พฤติกรรมการกระทำผิด
          โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จและหมิ่นประมาทก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ
วิธีป้องกัน
          ไม่ควรโพสต์ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจต่อบุคคลและต่อประเทศ
         
บทลงโทษ
 มาตรา14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
1.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
2.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
3.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
4.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
5.      เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1)(2) (3) หรือ (4)

 

ฐานตัดต่อคลิปโกงข้อสอบศาล ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์




นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติมอบหมายให้ตน ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ และกลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวนที่ร่วมกันจัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอชุดที่ 3 เกี่ยวกับคำสารภาพเด็กฝาก ทางคอมพิวเตอร์ เครือข่ายเว็บไซต์ และหนังสือพิมพ์บางฉบับ ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โดยใช้นามแฝงว่า Ohmygod3009 ที่กระทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านการตัดต่อรวม 4ตอน อันเป็นการหมิ่นประมาท หรือ ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย

วิเคราะห์ข่าว
          นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์และพรรคพวกได้ทำคลิปเกี่ยวกับการเปิดโปงเบื้องหลังการเข้าสอบ ว่ามีแผนการเรื่องราวอย่างไรอีกทั้งยังมีเนื้อหาภายในคลิปที่เป็นการหมิ่นเบื้องบน ทำให้ภาพลักษณ์ของศาลดูเสียหาย

พฤติกรรมการกระทำผิด

การเผยแพร่ ส่งต่อ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่เป็นคลิปวีดีโอเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยผ่านการตัดต่อที่มีเนื้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท หรือเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดและไม่สมควร

วิธีการป้องกัน

            ไม่ควรจัดทำคลิปวีดีโอที่มีเนื้อหาความอันเป็นการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทยหรือถ้าจะจัดทำก็ควรแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจรพร้อมทั้งไม่ควรมีเนื้อหาที่ดูหมิ่นเบื้องบนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ

บทลงโทษ
             มาตรา14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
1.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
2.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
3.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
4.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
5.      เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1)(2) (3) หรือ (4)

อุทาหรณ์โซเชียล ตำรวจแจ้งความกลับ 
ผู้โพสต์แต่งชุดนอกเครื่องแบบล็อคล้อ



เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2558 จากกรณีที่มีชาวเน็ตรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพตำรวจแต่งชุดเสื้อยืดคอกลม กางเกงสามส่วน ออกปฏิบัติหน้าที่ บริเวณหลังวัดราชนัดดารามวรวิหาร พื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยผู้โพสต์ระบุว่า "ผมเป็นประชาชนที่เสียภาษีอย่างถูกต้องถ้าผมผิด ผมรับผิดและยอมจ่ายค่าปรับ แต่วิธีของพวกคุณ ไม่ใช่ ตำรวจที่ดี อย่างที่ควรจะเป็นสภาพการแต่งตัวคำพูดคำจา มันไม่ใช่กับการที่จะยอมรับได้..คุณอ้างว่าที่คุณใส่ชุดแบบนี้เพราะคุณออกเวร.แต่ทำไม คุณถึงมีสิทธิ์มาเขียนใบสั่งพร้อมทั้งล็อคล้อ รถผม..ประเทศไทย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย..แต่ถ้าผู้รักษากฎหมาย ทำพฤติกรรมแบบนี้..สังคมจะอยู่อย่างไร..ลูกชายผมยืนร้องให้..เค้าเสียใจที่รถเค้าถูกล็อคล้อแบบไม่สมควร..เค้าบอกว่า ตำรวจไร้เหตุผล.เด็กขวบ ยังรู้จักแยกแยะว่าอะไรผิด.อะไรถูก..พวกคุณควรสำนึกไว้ด้วย...!!!"
          ทางด้าน พ.ต.ท. สมเกษม จารักษ์ รองผกก.จร. สน.สำราญราษฎร์ ชี้แจงว่า เหตุการณ์จริงไม่ใช่แบบที่ถูกโพสต์แต่อย่างใด ข้อเท็จจริงคือผู้โพสต์ ได้จอดรถในที่บริเวณหน้าป้ายห้ามจอด บริเวณถนนหลังวัดราชนัดดารามวรวิหาร และดาบตำรวจสมเกียรติ สุทธินนท์ ได้ขับขี่จยย.ตรวจพบ จึงทำการล็อกล้อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.พร้อมออกใบเตือนให้มาชำระค่าปรับที่สถานีตำรวจ จากนั้นด.ต.สมเกียรติได้ออกเวรไปช่วง 16.00 น. และผู้โพสต์ได้มาเสียค่าปรับ 300 บาท ในข้อหาจอดรถในเขตห้ามจอด ที่สน.ในช่วงเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่จึงวิทยุให้ด.ต.สมเกียรติไปไขที่ล็อกล้อ แม้จะออกเวรแล้วก็ตาม ทั้งนี้ยืนยันว่า เหตุการณ์จริงไม่ใช่อย่างที่ผู้โพสต์ระบุแต่อย่างใด ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา ด.ต.สมเกียรติ สุทธินนท์ ตำรวจจราจร สน.สำราญราษฎร์ ได้แจ้งความผู้โพสต์แล้ว ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา14 ในข้อหาหมิ่นประมาท นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
วิเคราะห์ข่าว
          ผู้ชายคนนั้นเขาได้จอดรถบริเวณที่ห้ามจอดหรืออาจเพราะเขาไม่รู้ว่าบริเวณนั้นมีเขตห้ามจอดดังกล่าว แล้วก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบมาปฏิบัติหน้าที่ตามกฎระเบียบสั่งล็อคล้อและให้ไปเสียค่าปรับ ทำให้ชายคนนั้นเกิดความพอใจว่ามาล็อครถเขาทำไม อีกทั้งยังแต่งกายไม่สุภาพพร้อมกับทั้งที่ยังไม่ใช่เวลาปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจึงได้โพสต์และถ่ายภาพลงทาง Facebook เพื่อเป็นการประจานตำรวจรายนั้น
พฤติกรรมการกระทำผิด
ได้โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จลง Facebook ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ประชาชนมองเจ้าหน้าที่ตำรวจในด้านลบ ทั้งที่ความเป็นจริง เจ้าตัวได้กระทำผิดจริงในข้อหาจอดรถในพื้นที่บริเวณห้ามจอด 
วิธีการป้องกัน
          ควรโพสต์ข้อความที่เป็นความจริง ไม่เห็นแก่อารมณ์ชั่ววูบจนลืมนึกถึงจิตสำนึกที่ดีว่าความจริงตนเองนั้นผิดอย่างไร
บทลงโทษ
  มาตรา14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
1.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
2.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
3.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
4.      นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
5.      เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1)(2) (3) หรือ (4)
                   
ข้อมูลข่าว